
เรื่องปากท้อง เรื่อง "อาหารการกิน" ของมนุษย์เรา นับวันจะกลายเป็นเรื่องที่ต้อง "สุ่มเสี่ยง" ต่อการ "เกิดภัย"เป็นเรื่องต้องระมัดระวังกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสำหรับในประเทศไทยยามนี้ ที่เพิ่งเป็นข่าวฮือฮาน่ากลัวก็คือ มีนายทุนเห็นแก่ได้นำ "ไก่เน่า" มาชำแหละส่งขาย โดย แช่ฟอร์มาลิน ที่ใช้ในการแช่ดองศพ คลุกดินประสิว ที่ใช้ในการทำวัตถุระเบิด เพื่อกลบร่องรอยความเน่า รวมทั้งปกปิดกลิ่นเหม็น ก่อนส่งออกขาย ซึ่งกับผู้ที่บริโภคนั้นอาจเกิดอันตราย อาหารเป็นพิษ อาเจียน ท้องร่วง หรือถ้าโชคร้ายมาก ๆ ก็อาจร้ายแรงกว่านี้
ก็ทำเอาคนไทยจำนวนไม่น้อยแหยง ๆ ที่จะบริโภคไก่คนค้าขายไก่ ขายอาหารที่ใช้ไก่ ก็พลอยย่ำแย่ไปด้วยครั้นจะหันไปบริโภค "ผัก" เป็นหลัก ยามนี้ก็ใช่ว่าจะไม่แหยงกัน เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อแบคทีเรียร้าย "อีโคไล"ในประเทศแถบยุโรป ในประเทศเยอรมนี จนถึงวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา ก็ยังอึมครึมถึงต้นตอที่แน่ชัด ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการป่วยด้วยเชื้อตัวนี้ในเยอรมนี ณ วันที่ 14 มิ.ย. ขยับเพิ่มเป็น 36 ราย มีผู้ป่วยติดเชื้อที่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิตอีกอย่างน้อย 3,228 ราย ซึ่งในหลาย ๆ ประเทศยังเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ สำหรับในประเทศไทย แม้ว่าทางหน่วยงานด้านสาธารณสุขจะยืนยันว่ายังไม่มีเชื้ออีโคไลตัวนี้แพร่ระบาด แต่ ไทยก็ใช่ว่าจะวางใจได้ เพราะขนาดเยอรมนีที่มีการพัฒนาทางการแพทย์สูงก็ยังมึนตึ้บ!!
ย้อนดูข้อมูล "อีโคไล" กันอีกสักครั้ง โดยภาพรวมกว้าง ๆ แบคทีเรียร้ายกลุ่มนี้มีอยู่หลายสายพันธุ์ ซึ่งกับอีโคไลที่ระบาดอยู่แถบยุโรป ในเบื้องต้นเชื่อว่ามันมากับอาหาร โดยเฉพาะจำพวกผักสด และในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นเชื้ออีโคไลสายพันธุ์ โอ-104 ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ใดกันแน่ ที่แน่ ๆ ก็คือ "อันตราย"
ผู้ที่ได้รับเชื้อนี้เข้าสู่ร่างกาย จะมีอาการป่วยคล้ายคลึงกับผู้ป่วยที่อาหารเป็นพิษ คือ ท้องเสีย ถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำ มีไข้ต่ำ คลื่นไส้อาเจียน โดยส่วนใหญ่อาการป่วยจะสามารถหายได้เอง แต่ประมาณร้อยละ 10 อาการจะรุนแรง ถ่ายเป็นมูกหรือเป็นเลือด เกิดภาวะซีด และร้อยละ 3-5 จะมีอันตรายมาก อาจเกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน เม็ดเลือดแดงแตก และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้!!
กับคำแนะนำทางสาธารณสุข คำเตือนทางการแพทย์ หากใครมีอาการท้องเสีย ควรทบทวนเรื่องการกินอาหาร เช่น มีการรับประทานอาหารที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทำให้ท้องเสียหรือไม่? และก็ควรจะสังเกตอาการตนเองให้ดี เช่น ถ้าท้องเสียเกิน 3 วันแล้วอาการไม่ดีขึ้น ถ่ายไม่หยุด ถ่ายเป็นมูกเป็นเลือด อย่าวางใจโดยไม่ไปพบแพทย์.เด็ดขาด!! ซึ่งจริง ๆ แล้ว หากไม่ติดขัดหรือสุดวิสัยจริง ๆ เมื่อท้องเสียก็ควรไปพบแพทย์แต่แรก
ยิ่งถ้าเกิดอาการป่วยหลังคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่เกิดการระบาดของเชื้อ "อีโคไล" ยิ่งควรต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจอย่างละเอียดโดยด่วน!!
สำหรับอีโคไลสายพันธุ์ที่ระบาดอยู่ในแถบยุโรปนั้น เมื่อทำให้เกิดอาการป่วย ทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า. การรักษาผู้ที่ติดเชื้อก็จะใช้วิธีเดียวกับการรักษาผู้ป่วยอาหารเป็นพิษ หรือผู้ป่วยท้องร่วงทั่วไป โดยเป็นการรักษาตามอาการ และจะไม่มีการให้ยาหยุดถ่ายท้อง เพราะอาจจะส่งผลให้มีเชื้ออันตรายตกค้างอยู่ในร่างกาย แต่หากมีเหตุจำเป็นต้องใช้ ก็จะต้องอยู่ในความควบคุมดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด
โดยคุณ : oOfonOo เมื่อ 21 มิ.ย. 2554 : 09:32:19