"สำนักงานศิษย์เก่าสัมพันธ์ มธ." ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "สำนักงานธรรมศาสตร์สัมพันธ์" ตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่าด้วยการจัดตั้งและการแบ่งส่วนงานของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ.2559
แนะวิธีนอน-นั่ง ป้องกันปวดคอ-หลัง


ในช่วงที่ร่างกายจะได้พักผ่อนและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอคือช่วงที่ มนุษย์เรานอนหลับ อวัยวะหลายอย่างได้หยุดพักขณะเดียวกันร่างกายยังได้ผลิตฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตต่อร่างกายอีกด้วย อาจเรียกได้ว่าการนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่วิเศษที่สุด แต่มีคนจำนวนมากมักบ่นหลังจากตื่นนอนว่าปวดหลัง ปวดคอ ปวดเอว นั่นอาจเป็นเพราะท่านอนและวัสดุที่นอนไม่เหมาะสมกับสรีระหรือไม่ถูกสุขลักษณะ

ดร.เจฟฟรี สวอป ให้ข้อมูลว่า การนอนหลับถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับสุขภาพ ดังนั้นท่านอนถือเป็นเรื่องสำคัญมากเช่นเดียวกัน เพราะทำให้สุขภาพและคุณภาพชีวิตของคนเราดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็อาจทำให้สุขภาพแย่ลงได้

ท่านอนที่ดีที่สุดคือการนอนหงาย เพราะจะทำให้หลับลึก และเป็นท่าที่รองรับกระดูกสันหลังได้เป็นอย่างดี

1.เก้าอี้ขนาดใหญ่เกินไปเท้าต้องเขย่ง

2.พยายามนั่งให้หลังชิดพนักเก้าอี้

หมอนที่นอนควรมีลักษณะเตี้ย หรือเป็นหมอนที่รองรับศีรษะและคอได้พอดี ควรเป็นหมอนที่เป็นแอ่ง โค้งเว้า ส่วนท่านอนที่แย่ที่สุดและควรหลีกเลี่ยงคือท่านอนคว่ำ เพราะการนอนคว่ำจะบังคับให้เราต้องบิดลำคอไปด้านใดด้านหนึ่งเสมอ ซึ่งจะทำให้กระดูกสันหลังบริเวณคอเกิดความตึง เพราะถูกบิดจากท่านอนที่ไม่ถูกต้องทั้งคืน อาจทำให้เกิดอาการล็อกหรือเรียกว่าคอตกหมอน หากเป็นเช่นนี้นานๆ จะเกิดการสะสมทำให้ข้อกระดูกกดทับเส้นประสาท ส่งผลกับข้อต่อกระดูกสันหลัง ทำให้มีอาการปวดคอ ปวดศีรษะ มึนงง และข้อต่อกระดูกเสื่อมเร็วขึ้น

ดร.เจฟฟรี ระบุว่า ที่นอนที่เหมาะกับสุขภาพควรเป็นที่นอนหรือ ฟูกที่มีความหนานุ่มในระดับที่เหมาะสม ไม่แข็งหรือนุ่มจนเกินไป เพราะถ้าฟูกนุ่มเกินไปจะทำให้ตัวจมลงไปในแอ่งของฟูก ส่งผลต่อกระดูกสันหลังที่ถูกบีบอัดเข้าหากัน ถ้าหากฟูกหรือที่นอนแข็งมากจนเกินไปจะทำให้กระดูกสันหลังตรงเกินไป ส่งผลให้เกิดภาวะกระดูกสันหลังตึงและเครียดได้

การนั่งผิดท่าหรือนั่งเก้าอี้ที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดอาการปวดหลังปวดคอได้เช่นเดียวกัน ดร.เจฟฟรี ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ทำให้โลกเราเปลี่ยนไปมาก พวกเราก็มีท่าทางที่แย่ลงในการนั่งทำงานหรือใช้คอมพิวเตอร์ที่มากเกินไป ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียง่าย อ่อนล้า หมดแรง มีอาการชาบริเวณแขนและมือ ซึ่งจะส่งผลต่อเอ็นข้อมือด้วย ทำให้บางคนมีอาการปวดหัว ปวดต้นคอ และปวดหลัง

ท่าที่ถูกต้องในการนั่งทำงานหรือใช้คอมพิวเตอร์ คือ

1.ควรนั่งบนเก้าอี้ที่มีส่วนที่หนุนหรือรองรับกับกระดูกสันหลัง หรือมีพนักพิงข้างหลัง การนั่งพิมพ์งานหลังควรตรง ข้อศอกตั้งฉาก 90 องศา

2.ควรนั่งเก้าอี้ที่มีพนักพิง โดยมีความกว้างและลึกที่ทำให้ผู้นั่ง นั่งให้หลังชนเก้าอี้ได้ โดยที่เท้าสัมผัสกับพื้น หากไม่สามารถนั่งเช่นนี้ได้ให้หาที่วางขาให้เข่าอยู่ในลักษณะเท่ากัน และวางเมาส์ไว้ใกล้ตัวเพื่อจะได้ไม่ต้องเอื้อมไปจับ พัก 1-2 นาที ทุกๆ 20-30 นาที ลุกขึ้นและผ่อนคลาย

3.พยายามนั่งให้หลังชิดพนักเก้าอี้ทุกครั้ง ไม่ควรนั่งจมลงไปในเก้าอี้ เพราะจะทำให้หลังงอ

4.หากต้องอ่านหนังสือ หรือเอกสาร และพบว่าเก้าอี้อยู่สูงกว่าวัตถุ ควรหาแฟ้มเอกสาร หรือกล่องมารองหนังสือเพื่อให้หนังสืออยู่ระดับเดียวกับสายตา เพราะถ้าหากอยู่ต่ำกว่าสายตาจะทำให้เวลาอ่านต้องมองขึ้นมองลง อาจทำให้เกิดอาการปวดที่คอและหลังท่อนบนได้

5.ไม่ควรนั่งเก้าอี้ที่มีพนักเก้าอี้ใหญ่มากเกินไป เพราะจะทำให้ ต้องเขยิบเข้าไปนั่งกลางเก้าอี้ ทำให้ขาไม่ได้รับน้ำหนัก อาจทำให้ปวดหลังได้

โดยคุณ : oOfonOo เมื่อ 27 พ.ค. 2554 : 13:13:20  

Member
204 ศิษย์เก่า และ 54 บุคคลทั่วไป