"สำนักงานศิษย์เก่าสัมพันธ์ มธ." ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "สำนักงานธรรมศาสตร์สัมพันธ์" ตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่าด้วยการจัดตั้งและการแบ่งส่วนงานของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ.2559
ป้องกันภัยเมื่อวัยทอง


"ชายวัย 40 ปีขึ้นไปมักเริ่มมีปัญหาสุขภาพ ซึ่งมีสาเหตุหลายประการ สาเหตุหนึ่งอาจเกิดจากการลดลงของฮอร์โมนเพศชาย แม้อาการที่เกิดจากการลดลงของฮอร์โมนเพศจะเห็นได้ไม่ชัดเจนเท่ากับผู้หญิง แต่ถ้าปล่อยให้มีอาการไปเรื่อย ๆ ไม่มีการดูแลส่งเสริมสุขภาพ รวมทั้งยังมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ อาจส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อสุขภาพ" นี่เป็นข้อมูลเผยแพร่ส่วนหนึ่งของ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

ทั้งนี้ ผู้ชายวัย 40 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะผู้ชายกลุ่มอายุระหว่าง 40-59 ปี หรือที่เรียกว่า 'ชายวัยทอง" นั้น จากการศึกษาภาวะโภชนาการของบุคคลในวัยนี้ที่ผ่านมา พบว่า อยู่ในกลุ่มวัยที่มักมีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคอ้วน เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง เกาต์ หัวใจขาดเลือด ฯลฯ รวมถึงโรคมะเร็ง ขณะที่ถ้าจะโฟกัสกันที่โรคร้ายยอดฮิตของชายสูงวัย ช่วงอายุ 45-63 ปี หลัก ๆ เลยคือ โรคความดันโลหิตสูง, โรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งทำให้เป็นอัมพฤกษ์-อัมพาต และโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน รวมถึงโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ ซึ่งหากจะว่ากันถึงมะเร็งที่พบมากในเพศชาย โดยเฉพาะชายไทย ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ระบุไว้ว่า ได้แก่ มะเร็งตับ, มะเร็งปอด แต่ก็ใช่ว่าไม่ต้องกลัวมะเร็งอื่น ๆ

มะเร็งนั้นมีหลากหลาย นอกจากที่เป็นเฉพาะผู้หญิง-ผู้หญิงเป็นมาก อย่าง มะเร็งปากมดลูก, มะเร็งมดลูก, มะเร็งรังไข่, มะเร็งเต้านม แล้ว ก็มีมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก, มะเร็งตับ, มะเร็งตับอ่อน, มะเร็งปอด, มะเร็งกระดูก, มะเร็งช่องปาก, มะเร็งผิวหนัง, มะเร็งโพรงหลังจมูก, มะเร็งกล่องเสียง, มะเร็งเม็ดเลือดขาว, มะเร็งต่อมธัยรอยด์, มะเร็งต่อมน้ำเหลือง, มะเร็งถุงน้ำดี-ท่อน้ำดี, มะเร็งและเนื้องอกในระบบประสาท และกับผู้ชาย ยังมีมะเร็งที่ต้องกลัวเพิ่มอีกคือ, มะเร็งระบบทางเดินอาหาร ปัสสาวะ อวัยวะสืบพันธุ์ชาย รวมถึง มะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งต่อมลูกหมากเป็นส่วนหนึ่งของระบบสืบพันธุ์เพศชาย

มะเร็งอย่างหลังนี้ จากข้อมูลทางการแพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดที่แน่ชัดนัก แต่ที่แน่ ๆ คือพบมากในชายวัยทอง ชายวัยกลางคนโดยเฉพาะที่อายุ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งอาการที่มักจะพบคือ 1. ปัสสาวะบ่อย, 2. ปัสสาวะเป็นเลือด, 3. อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด, 4. อาจมีอาการปวดหลัง ปวดกระดูก ร่วมด้วย แต่บางรายที่เป็นแล้วโดยที่ไม่มีอาการก็มี!!


โดยคุณ : oOfonOo เมื่อ 11 พ.ค. 2554 : 09:03:11  

Member
204 ศิษย์เก่า และ 54 บุคคลทั่วไป