
โตขึ้นหนูก็จะสวมหมวกกันน็อคค่ะ
เมื่อเอ่ยถึงพาหนะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่นิยมใช้ คงหนีไม่พ้น “จักรยานยนต์” เพราะนอกจากจะขับง่าย ไม่เปลืองน้ำมันแล้ว ยังให้ความคล่องตัว แถมราคาก็ไม่แพงอีกด้วย ครอบครัวธรรมดา ๆ ไม่ต้องพกเงินแสนก็สามารถซื้อหามาใช้ได้
แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ยังมีครอบครัวไทยอีกไม่น้อยที่หลงลืมข้อปฏิบัติด้านความปลอดภัยในการใช้ “จักรยานยนต์” ไปเสียนี่ นั่นก็คือการไม่สวมหมวกนิรภัย หรือที่เราเรียกกันถนัดปากว่า “หมวกกันน็อค” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีโอกาสเดินทางไปในต่างจังหวัด เรามักพบว่า หลายคนมักไม่นิยมสวมหมวกกันน็อคเอาเสียเลย แม้จะขับบนถนนใหญ่ รถราวิ่งกันฉวัดเฉวียนก็ตาม
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านที่เลือกใช้พาหนะอย่าง "จักรยานยนต์" ในการเดินทาง การสวมหมวกกันน็อคถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ที่ไม่ควรหลงลืม หรือละเลย เพราะนอกจากจะช่วยลดอันตรายที่จะเกิดกับชีวิตแล้ว ยังช่วยป้องกันศีรษะ – สมอง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดสำหรับมนุษย์อีกด้วย แต่ถ้ายังไม่จุใจ เรามีข้อดีของหมวกกันน็อคมาฝากค่ะ
ข้อดีของหมวกกันน็อค
สำหรับหมวกกันน็อคที่ออกแบบและผลิตอย่างได้มาตรฐาน ภายในจะมีโฟม ซึ่งมีคุณสมบัติยืดหดได้ เมื่อเกิดการชนและกระแทกจากของแข็ง โฟมที่อยู่ภายในหมวกกันน็อคจะถูกอัดกระแทก ยืดเวลาที่ศีรษะใช้ก่อนหยุดเคลื่อนไหวออกไปประมาณ 6 มิลลิวินาที มีผลในการควบคุมพลังงานจากการชน หมวกกันน็อคยังจะกระจายแรงการกระแทกไปยังพื้นที่ที่กว้างขึ้น ทำให้แรงกระแทกไม่ไปรวมอยู่ ณ พื้นที่เล็กๆ ส่วนใดส่วนหนึ่งของกะโหลกเท่านั้น ทำให้แรงกระแทกต่อเนื้อสมองลดลง แรงหมุนและความตึงเครียดภายในก็จะลดลงด้วย
นอกจากนั้น หากลองเปรียบเทียบความเสี่ยงระหว่างการสวมหมวกกันน็อคกับไม่สวมหมวกแล้วพบว่า การสวมหมวกนิรภัย ลดความเสี่ยงและความรุนแรงของการบาดเจ็บลงได้ประมาณ 72% ลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้ถึง 39% แต่ขึ้นอยู่กับความเร็วของรถจักรยานยนต์ที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุ และลดค่ารักษาพยาบาลที่เกี่ยวเนื่องกับอุบัติเหตุ
แนะวิธีเลือกหมวกกันน็อค สำหรับพ่อแม่
เพื่อความปลอดภัยในฐานะผู้ขับขี่และซ้อนท้ายรถจักยานยนต์ การเลือกซื้อสวมหมวกกันน็อคทุกครั้ง ควรเลือกซื้อหมวกกันน็อคที่มีสัญลักษณ์ มอก. และมีข้อแนะนำ 10 ประการ คือ
1. หมวกกันน็อคที่สามารถปกป้องศีรษะและใบหน้าได้ดีที่สุด คือ หมวกนิรภัยชนิดเต็มใบ รองลงมาคือชนิดเปิดหน้า
2. หมวกกันน็อคควรมีแผ่นกันลมที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ และควรใช้ชนิดใสในเวลากลางคืน และสีทึบในเวลากลางวัน
3. ควรตรวจสอบความหนาของเปลือกนอก ไม่ควรต่ำกว่า 4 มิลลิเมตร มีสีสดและสะท้อนแสงได้ เพื่อผู้ขับขี่คนอื่นเห็นได้ง่าย โดยเฉพาะในเวลาค่ำ และไม่มีส่วนยื่นออกจากผิวชั้นนอกของหมวกกันน็อคเกินกว่า 5 มิลลิเมตร
4. ควรตรวจสอบความแข็งและความหนาของโฟมซึ่งควรมีความหนาประมาณ 2.5 เซนติเมตรขึ้นไป เนื้อโฟมแข็ง ใช้นิ้วกดไม่ลง
โดยคุณ : oOfonOo เมื่อ 24 ก.พ. 2554 : 09:54:47