การตรวจตะกอนปัสสาวะทางกล้องจุลทรรศน์
1. เพื่อช่วยบ่งชี้ให้แน่ชัดถึงภาวะที่ผิดปกติหรือโรคที่สงสัย ในบางครั้งการตรวจทางกายภาพและเคมีอาจไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่เมื่อตรวจตะกอนก็อาจจะพบสิ่งผิดปกติได้ ซึ่งสามารถช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยโรคได้เป็นอย่างดี สิ่งที่สามารถพบได้ในตะกอนปัสสาวะ เช่น เซลล์ต่างๆ เม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดง แบคทีเรีย เชื้อรา พยาธิ ผลึกต่างๆ แท่งโปรตีน เป็นต้น
2. การตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ เป็นวิธีที่สำคัญมากในการวินิจฉัยโรค โดยการนำตะกอนปัสสาวะ มาตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ เพื่อหาดูเซลล์ต่างๆ เช่น เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เซลล์เยื่อบุ และตรวจหาคาสท์ ซึ่งมีความสำคัญในการวินิจฉัยโรคไต การตรวจหาผลึกต่างๆ เช่น แคลเซียมออกซาเลต ยูริคแอซิด เป็นต้น
การตรวจปัสสาวะด้วยกล้องจุลทรรศน์นั้นสามารถช่วยในการวินิจฉัยโรคเช่น การพบเม็ดเลือดแดง และคาสท์ออกมาย่อมชี้บ่งว่าน่าจะเป็นโรคไตเฉียบพลัน และยังมีประโยชน์ในการติดตามการรักษาโรคว่าดีขึ้นหรือเลวลง เช่น ก่อนรักษาพบคาสท์ 5-10 คาสท์ต่อฟิลด์กล้อง แต่พอรักษาแล้วเหลือ 0-1 คาสท์ต่อฟิลด์กล้อง ย่อมแสดงว่าอาการดีขึ้น เป็นต้น
3. ในคนปกติ ไม่ควรมีเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะเล ยถ้ามีเม็ดเลือดขาวออกมามากในปัสสาวะ แสดงว่ามีการอักเสบติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือกรวยไตอักเสบ ปกติจะรายงานเป็นจำนวนเซลที่พบต่อพื้นที่ที่มองเห็นด้วยหัวกล้อง ขนาด X40หรือ High Dry Field (HDF) ถ้าพวกที่พบเล็กน้อย เช่น 1-2 cell/ HDF อาจจะไม่สำคัญเท่าไรนัก แต่ถ้าพวกมีการติดเชื้ออาจจะพบหลายสิบตัวหรือเป็นร้อยๆ ซึ่งจะรายงานว่ามีจำนวนมาก
4. เม็ดเลือดแดงก็เช่นเดียวกับเม็ดเลือดขาว คนปกติไม่ควรพบเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ ถ้าพบแสดงว่ามีเลือดออกในทางเดินปัสสาวะ อาจจะจากอุบัติเหตุ ในกรณีที่ามีประวัติบ่งชี้ว่าได้รับการกระแทกที่ทางเดินปัสสาวะ หรือมีเนื้องอกในทางเดินปัสสาวะ หรือมีนิ่วในทางเดินปัสสาวะ การติดเชื้อบางครั้งก็ทำให้มีเม็ดเลือดแดงออกมา ในปัสสาวะได้แต่มักจะมีเม็ดเลือดขาวมากกว่า สาเหตุที่พบบ่อยสุดที่ทำให้พบเม็ดเลือดแดงจำนวนมากในปัสสาวะคือนิ่ว
5. อาจพบเซลเยื่อบุทางเดินปัสสาวะในส่วนต่างๆ เมื่อมีการอักเสบหรือความผิดปกติของทางเดินปัสสาวะ
6. อาจพบผลึกของสารต่างๆ ที่ปนมากับปัสสาวะ เช่น Calcium Oxalate หรือ Urate Crystal ซึ่งพวกนี้อาจจะตกตะกอนเป็นนิ่วต่อไปได้
โดย oOfonOo [ 22 ก.พ. 2554 : 010:08:50 ]