'ลดหวาน' วาเลนไทน์ กรมอนามัยส่งเสริมให้คนไทยสุขภาพดี

เทศกาลวันวาเลนไทน์ในเดือนแห่งความรัก อาจเป็นการเริ่มต้นของคู่รักหลายๆ คู่ ที่ต่างก็มอบสิ่งที่ดีที่สุดเป็นสื่อรักแทนใจ ซึ่งที่ฮอตฮิตที่สุดก็คงหนีไม่พ้นดอกกุหลาบแดง แต่มีหลายๆ คู่รักที่เปลี่ยนจากมอบดอกไม้หันมาให้ช็อกโกแลตรูปหัวใจแทน โดยอาจมองข้ามถึงผลกระทบต่อสุขภาพตามมา

เนื่องจากช็อกโกแลตส่วนใหญ่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสมหลักที่ให้แต่พลังงาน โดยจะให้สารอาหารอื่นมากน้อยขึ้นอยู่กับการเพิ่มชนิดอาหารอื่นผสมลงไปด้วย เช่น นมหรือถั่วชนิดต่างๆ ซึ่งช็อกโกแลตจัดเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงเมื่อเทียบกับขนาด เพราะเพียงแค่ช็อกโกแลต รสนมชิ้นเล็กขนาด 28 กรัม ให้พลังงานถึง 145 กิโลแคลอรี หรือช็อกโกแลตสอดไส้ถั่วแมคคาเดเมีย ขนาด 30 กรัม ให้พลังงานสูงถึง 170 กิโลแคลอรี ยังไม่นับรวมเค้กช็อกโกแลตจำนวน 1ชิ้น 60 กรัม ให้พลังงาน 225 กิโลแคลอรี

เห็นพลังงานสูงขนาดนี้แล้ว ไม่ดีต่อสุขภาพแน่ค่ะ เพราะความหวานที่ได้จากน้ำตาลและอาหารกลุ่มที่ให้คาร์โบ ไฮเดรตชนิดที่มีโมเลกุลไม่ซับซ้อน จัดเป็นอาหารที่ให้พลังงานว่างเปล่า คือให้พลังงานแต่ไม่ให้สารอาหารอื่น และหากมีการกินโดยขาดการควบคุมบ่อยๆ จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เหมาะสม ส่งผลให้มีไขมันสะสมในร่างกายมากเกินไป ขาดวิตามินหรือแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันทำให้ติดเชื้อง่าย และถ้าร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไป ก็จะเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไขมันสะสมในร่างกาย ทำให้เป็นโรคอ้วนได้ง่ายด้วยค่ะ

วันวาเลนไทน์ปีนี้ จึงอยากเห็นคู่รักมอบอาหารสุขภาพแทนใจ เช่น ไอศกรีมผักผลไม้ เค้กผักผลไม้ที่มีรสไม่หวานจัด หรือที่ดีที่สุดคือ เลี่ยงขนมที่มีรสหวานให้น้อยลง แต่เพิ่มความรัก ความจริงใจแก่กันให้มากขึ้น ก็จะช่วยให้รักยืนยาว...