ปวดศีรษะเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย อาการปวดมีหลายภาวะ เช่น มีไข้ เครียด อดนอน ปวดจากยาบางชนิด ตลอดจนถึงโรครุนแรงในสมอง เช่น เนื้องอกในสมอง หลอดเลือดในสมองแตก เยื้อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น
ปวดแบบไหนต้องไปหาหมอ
ปวดกะทันหัน, ปวดรุนแรงมาก, ปวดในลักษณะที่ไม่เหมือนที่เคยปวดมาก่อน (ปวดแบบใหม่), อาการค่อยๆ เป็นมากขึ้น จนถึงเป็นปีก็ไม่หาย, มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีไข้สูง ชัก เห็นภาพซ้อน อาเจียนรุนแรง แขนขาอ่อนแรงเป็นครึ่งซีก
อาการปวดศีรษะ แบ่งเป็น 4 กลุ่มกว้างๆ ได้แก่
1.ปวดจากกล้ามเนื้อตึงตัว เช่น อดนอน เครียด ใช้สมอง หรือสายตาติดต่อกันเป็นเวลานานๆ การปวดมีลักษณะตึงๆ ตื้อๆ บางคนอาจปวดจี๊ดๆ ร่วมด้วยร้าวจากขมับไปกลางศีรษะจนถึงท้ายทอย ข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้
อาการปวดมักจะเริ่มตอนสายๆ ปรือบ่ายๆ แล้วมักจะปวดต่อไปทั้งวัน การป้องกันทำได้โดยกินยาแก่ปวด เช่น พาราเซตามอล ถ้ายังไม่ค่อยดีขึ้น อาจต้องใช้ยาอื่นร่วมด้วย เช่น ยาคลายกล้ามเนื้อหรือยาคลายเครียด ซึ่งควรให้แพทย์เป็นผู้พิจารณา
2.ปวดจากการขยายตัวของหลอดเลือด พบบ่อยคือ ไมเกรน เกี่ยวกับระบบหลอดเลือด และเส้นประสาทในศีรษะ ลักษณะสำคัญ คือ ปวดตุ๊บๆ ที่บริเวณขมับข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ เวลาปวดจะรุนแรงมาก มักคลื่นไส้หรืออาเจียนร่วมด้วย แต่ช่วงที่ไม่ปวดจะหายเป็นปลิดทิ้ง สิ่งที่กระตุ้น เช่น อากาศร้อน เครียด อดนอน ช่วงมีประจำเดือน แอลกอฮอล์ อาหารบางชนิด เช่น ช็อกโกแลต ผงชูรส สิ่งที่ต้องปฏิบัติ คือ พยายามอยู่ในที่เงียบสงบ ถ้าหลับได้เลยยิ่งดี
3.ปวดจากมีสิ่งผิดปกติในสมอง ได้แก่ เนื้องอกในสมอง ฝี พยาธิ เยื่อสมองอักเสบ เส้นเลือดสมองแตก เป็นต้น การปวดขึ้นกับความรุนแรง ขนาดของรอยโรคตำแหน่ง มักปวดขึ้นเรื่อยๆ ช่วงที่เป็นมักมีอาการอาเจียนมาก หรืออาจมีอาการอื่นๆ ทางสมองร่วมด้วย เช่น ชัก เห็นภาพซ้อน สับสน อ่อนแรงครึ่งซีก ซึมลงจนถึงเสียชีวิตได้ ถ้าสงสัยต้องรีบมาพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
4.ปวดจากเส้นประสาทที่ศีรษะและใบหน้า
ดังนั้นการวินิจฉัยสาเหตุของการปวดศีรษะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่ง การเล่าอาการของคนไข้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะได้มาถึงการวินิจฉัยโรคและรักษาที่ตรงจุด
โดยคุณ : oOfonOo เมื่อ 18 ม.ค. 2554 : 09:11:06