
"กระเทียม" เป็นเครื่องเทศคู่ครัวคนไทยมาช้านาน เพราะนอกจากจะสามารถลดระดับโคเลสเตอรอลและลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้แล้ว ยังช่วยป้องกันอาหารเป็นพิษได้ด้วย เพราะในกระเทียมมีน้ำมันที่มีกลิ่นฉุน ซึ่งมีฤทธิ์ในการต่อต้านแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาหารเป็นพิษขึ้นในระบบย่อยอาหารของคนเรา
การรับประทานกระเทียมเป็นประจำ อาจช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาหารเป็นพิษได้ จากการวัดปริมาณแบคทีเรียในลำไส้ของคนที่ทานกระเทียมควบคู่กับอาหารปกติ พบว่าจำนวนการเพิ่มของแบคทีเรียชนิดธรรมดาจะเป็นไปตามปกติในลำไส้ แต่แบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคกลับถูกกำจัดออกไป โดยแบคทีเรียชนิดธรรมดานั้นมีอยู่จำนวนมากบริเวณลำไส้ส่วนล่างซึ่งช่วยในการย่อยอาหารและผลิตวิตามินเค
คุณสมบัติอีกประการหนึ่งของกระเทียมอยู่ที่ "สารอัลลิซีน" ซึ่งเป็นสารประเภทซัลเฟอร์ หรือกำมะถัน ซึ่งนับเป็นสมุนไพรชนิดแรกที่มนุษย์เรานำมาใช้ในการต่อต้านแบคทีเรีย
กระเทียมเป็นที่คุ้นเคยในการใช้เพิ่มกลิ่นและรสชาติของอาหาร แต่กระเทียมสดๆ มักมีกลิ่นแรงและรสเผ็ดร้อนจนรับประทานยาก อย่างไรก็ตาม การทานกระเทียมเพื่อเป็นยาต้องใช้กระเทียมที่ดิบ สด และใหม่ แต่ก็ไม่ควรเคี้ยวเปล่าๆ เพราะจะรู้สึกร้อนปากและคอ และไม่ควรกลืนทั้งกลีบเพราะจะไม่ได้ประโยชน์ใดๆ เลย นอกจากนี้ การนำกระเทียมไปทำให้แห้งแล้วป่นเป็นผงอัดเม็ดหรือใส่แคปซูลนำไปรับประทาน อาจไม่ได้ประโยชน์เทียบเท่ากระเทียมสด เพราะจากการทดลองพบว่าสารอัลลิซีนในกระเทียมออกฤทธิ์เมื่อเนื้อกระเทียมถูกทำลาย ในกรณีที่ต้องการทานเป็นประจำเพื่อขจัดสารพิษให้ใช้กระเทียมกลีบใหญ่ๆ 2-3 กลีบทุบให้แตกแล้วกลืนกับน้ำอุ่น 1 แก้วทุกๆ เช้าหลังตื่นนอน โดยน้ำอุ่นจะช่วยไม่ให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารด้วย
ถึงแม้กระเทียมจะให้ประโยชน์และสรรพคุณมากมาย แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือควรบริโภคกระเทียมตามปกติในปริมาณที่ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป โดยทานร่วมกับการทานอาหารครบทุกหมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และควรพิจารณาถึงคุณค่าของสารอาหารและความสะอาดของอาหารที่ทานในทุกมื้อ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษกับร่างกายเราได้
โดยคุณ : oOfonOo เมื่อ 30 พ.ย. 2553 : 08:51:00