
จากสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ นอกจากโรคทางกายแล้ว ผู้ประสบภัยจำนวนมากต่างเกิดความเครียด
นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่าความเครียดเป็นกลไกทางจิตใจที่เกิดขึ้นได้ทั่วไปเมื่อเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉิน จากการออกหน่วยสุขภาพจิตเคลื่อนที่ไปให้บริการผู้ประสบภัย พบว่า บางคนนอนไม่หลับ ปวดศีรษะหงุดหงิด ใจสั่น แน่นหน้าอก ไม่มีสมาธิ โมโหง่าย หลง ๆลืม ๆ ปวดท้อง หรือที่เรียกว่า เครียดลงกระเพาะอาหาร
วิธีประเมินความเครียดอ่านหัวข้อข้างล่างนี้ แล้วสำรวจดูว่าในระยะ 6 เดือนที่ผ่านมามีเหตุการณ์ในข้อใด จาก 20 ข้อคำถามที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ เกิดขึ้นกับตัวคุณบ้าง ถ้าข้อไหนไม่ได้เกิดขึ้นให้ข้ามไปไม่ต้องตอบ แต่ถ้ามีเหตุการณ์ในข้อใดเกิดขึ้นกับตัวคุณให้ประเมินว่าคุณมีความรู้สึกอย่างไรต่อเหตุการณ์นั้นและให้คะแนน (ตั้งแต่ 1-5 คะแนน) เป็นข้อ ๆ ไป 1. กลัวทำงานผิดพลาด 2. ไปไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3. ครอบครัวมีความขัดแย้งเรื่องเงินหรือเรื่องงานในบ้าน 4. เป็นกังวลเรื่องสารพิษ หรือมลพิษในอากาศ น้ำ เสียง และดิน 5. รู้สึกว่าต้องแข่งขันหรือเปรียบเทียบ 6. เงินไม่พอใช้จ่าย 7. กล้ามเนื้อตึงหรือปวด 8. ปวดหัวจากความตึงเครียด 9. ปวดหลัง 10. ความอยากอาหารเปลี่ยนแปลง 11. ปวดศีรษะข้างเดียว 12. รู้สึกวิตกกังวล 13. รู้สึกคับข้องใจ 14. รู้สึกโกรธ หงุดหงิด 15. รู้สึกเศร้า 16. ความจำไม่ดี 17. รู้สึกสับสน 18. ตั้งสมาธิลำบาก 19. รู้สึกเหนื่อยง่าย 20. เป็นหวัดบ่อย ๆ
การให้คะแนน1 คะแนน หมายถึง ไม่รู้สึกเครียด2 คะแนน หมายถึง รู้สึกเครียดเล็กน้อย 3 คะแนน หมายถึงรู้สึกเครียดปานกลาง 4 คะแนน หมายถึง รู้สึกเครียดมาก
5 คะแนน หมายถึง รู้สึกเครียดมากที่สุด
การแปลผลคะแนนรวมไม่เกิน 100 คะแนน โดยผลรวมที่ได้ แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ดังนี้ คะแนน 0-24 เครียดน้อย คะแนน 25-41 เครียดปานกลาง คะแนน 42-62 เครียดสูง คะแนน 63 ขึ้นไป เครียดรุนแรง
การประเมิน มี 4 ระดับ คือ1. ความเครียดในระดับต่ำหมายถึงความเครียดขนาดน้อย ๆ และหายไปในระยะเวลาอันสั้นเป็นความเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ความเครียดระดับนี้ไม่คุกคามต่อการดำเนินชีวิต บุคคลมีการปรับตัวอย่างอัตโนมัติ เป็นการปรับตัวด้วยความเคยชินและการปรับตัว ต้องการพลังงานเพียงเล็กน้อยเป็นภาวะที่ร่างกายผ่อนคลาย
2. ความเครียดในระดับปานกลางหมายถึง ความเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันเนื่องจากมีสิ่งคุกคาม หรือพบเหตุการณ์สำคัญ ๆ ในสังคม บุคคลจะมีปฏิกิริยาตอบสนองออกมาในลักษณะความวิตกกังวล ความกลัว ฯลฯ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติทั่ว ๆ ไปไม่รุนแรง จนก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย เป็นระดับความเครียดที่ทำให้บุคคลเกิดความกระตือรือร้น
3. ความเครียดในระดับสูงเป็นระดับที่บุคคลได้รับเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความเครียดสูง ไม่สามารถปรับตัวให้ลดความเครียดลงได้ในเวลาอันสั้นถือว่าอยู่ในเขตอันตราย หากไม่ได้รับการบรรเทาจะนำไปสู่ความเครียดเรื้อรัง เกิดโรคต่าง ๆ ในภายหลังได้
4. ความเครียดในระดับรุนแรงเป็นความเครียดระดับสูงที่ดำเนินติดต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้บุคคลมีความล้มเหลวในการปรับตัวจนเกิดความเบื่อหน่าย ท้อแท้ หมดแรงควบคุมตัวเองไม่ได้ เกิดอาการทางกายหรือโรคภัยต่าง ๆ ตามมาได้ง่าย
โดยคุณ : oOfonOo เมื่อ 5 พ.ย. 2553 : 08:53:24