ชอบหวานเสี่ยงมะเร็งมดลูก

นักวิจัยในสวีเดนเตือนผู้หญิงชอบกินของหวานระวังมะเร็งมดลูกถามหา พบกินเค้ก ขนมปัง หรือบิสกิตบ่อยเสี่ยงสูง 42%

วารสาร Cancer Epidemiology, Biomarkers and Prevention รายงานผลการศึกษาระยะยาวของนักวิจัยสถาบันแคโรลินสก้าในสวีเดนที่ทำให้ผู้หญิงต้องระมัด ระวังการบริโภคของหวานเพิ่มขึ้น เช่น เค้ก บิสกิต และขนมปัง เพราะอาจทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งมดลูกได้

ทั้งนี้ ในการศึกษาข้อมูลอาสาสมัครผู้หญิงจำนวน 61,226 คน ระหว่างปี 1987 - 1990 เพื่อดูความสัมพันธ์ของการบริโภคอาหารหวานและมะเร็งมดลูก โดยสอบถามเกี่ยวกับอาหารจานโปรด การใช้ชีวิตประจำวัน น้ำหนักตัวและสุขภาพทั่วไป จากนั้นอีก 10 ปี ต่อมาได้สอบถามอีกครั้งแต่เน้นถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการบริโภคเพิ่ม

ในปี 2008 นักวิจัยเชื่อมโยงคำตอบกับหลักฐานทางการแพทย์ โดยเฉพาะการป่วยเป็นมะเร็งเยื่อบุมดลูก (endometrial cancer) ซึ่งเป็นชนิดที่พบมากของมะเร็งมดลูก พบว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคนี้ 729 คนจากทั้งหมด แต่ไม่พบว่ามีความเสี่ยงเพิ่มหรือเสี่ยงเพิ่มเล็กน้อยจากการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลสูงบางอย่าง เช่น ลูกกวาด น้ำอัดลม แยม หรือแยมมีเนื้อผลไม้

แต่ในกลุ่มผู้หญิงที่บริโภคขนมเค้ก ขนมปัง หรือบิสกิตบ่อยหรือ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เสี่ยงเป็นมะเร็งมากกว่าคนที่รับประทานเดือนละ 2 ครั้ง หรือน้อยกว่านั้นถึง 42% นักวิจัยตรวจความถี่ในการบริโภคของหวานเหล่านั้นโดยไม่จำกัดปริมาณ พบว่าผู้ที่บริโภคน้ำตาลเกินกว่า 35 กรัมต่อวัน หรือประมาณ 7 ช้อนชา เสี่ยงเป็นมะเร็งสูงขึ้น 36%

นักวิจัยอธิบายว่า อาหารหวานทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งเพิ่มได้หลายวิธี สิ่งแรกคือ การมีน้ำตาลสูงทำให้ร่างกายปล่อยอินซูลินเพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถกระตุ้นให้เซลล์ในเยื่อบุมดลูกเจริญเติบโตมากเกินไปได้ นอกจากนี้ระดับน้ำตาลที่สูงยังส่งผลให้ร่างกายปล่อยฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มขึ้น ซึ่งเคยค้นพบแล้วว่าสามารถกระตุ้นให้เซลล์เจริญเติบโตจนไม่อาจควบคุมได้ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของมะเร็ง

แม้ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งบางรายมองว่ายังเร็วเกินไปที่จะด่วนสรุปความสัมพันธ์ดังกล่าว แต่ทีมวิจัยเตือนไม่ให้ประมาท และย้ำว่าจะมีการศึกษาต่อไปเพื่อยืนยัน