ชิมไม่ระวังเชื้อโรคเพียบ
จึงไม่น่าแปลกใจที่มีขบวนการค้าสุนัขสร้างกำไรได้เป็นกอบเป็นกำอย่างที่เพิ่งมีการจับกุมในบ้านเราที่มีรายงานว่าส่งไปขายทำเงินได้ตัวละสูงถึง 500-1,000 บาท
สำหรับใครที่คิดจะเลี้ยงเพื่อขายหรือเปลี่ยนรสนิยมมาบริโภคเนื้อสุนัขแทนเนื้อหมูที่มีเสียงบ่นกันทั่วบ้านทั่วเมืองว่าแพงนั้นคงต้องคิดให้มากหน่อย เพราะจากการตรวจสอบข้อมูลแล้ว อันตรายของสุนัขนอกจาก "กัด" โดยตรงแล้ว ยังเป็น "แหล่งเชื้อโรค" สารพัด ตัวอย่างโรคจากสัตว์ชนิดนี้ เช่น โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies) โรคนี้อาจติดต่อมายังคนโดยการสัมผัสน้ำลายสุนัขที่มีเชื้อผ่านทางบาดแผล หรือถูกข่วนถูกกัด ที่น่ากลัวคือ เราจะรู้หรือไม่หากมีการนำเนื้อสุนัขเป็นโรคมาขายในลักษณะสำเร็จรูปแล้ว
นอกจากนี้ยังเสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรียแซลโมเนลลา (Salmonella), แคมไพโลแบคเตอร์ (Campylobacter), เลปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) หรือเชื้อโรคฉี่หนู โรคแท้งติดต่อในสุนัขจากเชื้อ Brucella canis (B. canis) ที่เป็นอันตรายต่อแม่และทารก และเชื้อบิดบางชนิด เช่น Giardia ซึ่งปนเปื้อนได้ผ่านสัมผัสตัวสุนัขโดยตรงหรืออุจจาระ และติดเชื้อทางบาดแผล
สุนัขยังเป็นแหล่งพยาธิอีกหลายชนิด เช่น พยาธิไส้เดือนตัวกลม หนอนพยาธิปากขอ พยาธิแส้ม้า และพยาธิตัวตืด ซึ่งหากตัวอ่อน ของพยาธิเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายจะทำให้เกิดโรค ป่วย และเสียชีวิตได้ อีกทั้งยังมีเชื้อราและแบคทีเรียที่ทำให้เป็นโรคผิวหนังและโรคเรื้อน ที่หากเป็นแล้วจะกลายเป็นที่รังเกียจของสังคม
เป็นเพื่อนกันดีกว่า
จากตัวอย่างโรคร้ายและเชื้อร้ายที่อาจได้รับถ่ายทอดจากสุนัขนับว่าน่ากลัว ใครที่ยังตัดใจไม่ลงคงต้องระมัดระวังเรื่องความสะอาดและปรุงสุกอย่างเข้มงวด
สำหรับผู้ที่ไม่คิดลิ้มรสเนื้อสัตว์ชนิดนี้ก็ให้พิจารณาสุนัขไว้เป็นเพื่อนคู่กายจะดีกว่า แล้วจะพบว่าเราแสวงหาประโยชน์จากสัตว์ชนิดนี้ได้โดยไม่ต้องกินเนื้อของมัน
มีหลายการศึกษาพบว่าการเลี้ยงสุนัขไว้เป็นเพื่อนดีต่อสุขภาพกายและใจ เช่น ทำให้มีปัญหาสุขภาพลดลง ช่วยให้เจ้าของได้ออกกำลังกาย มีอัตรารอดชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจเพิ่มขึ้น และเสียชีวิตเนื่อง จากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันน้อยลง ช่วยลดอาการซึมเศร้า และแม้แต่ช่วยให้ผู้ป่วยอัลไซเมอร์หรือความจำเสื่อมยิ้มได้
เรียกว่าความสุขเล็กๆหาได้จากน้องหมาใกล้ตัวนี่เอง

โดย oOfonOo [ 24 ส.ค. 2554 : 08:56:01 ]