นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ ได้นำเสนอ บทความเรื่อง 'Health benefitsof vinegar' ในเว็บไซต์'howstuffworks' ที่กล่าวถึง ประโยชน์ต่อสุขภาพของน้ำส้มสายชู ไว้ว่า
- ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียม
น้ำส้มสายชูมีกรดน้ำส้ม ซึ่งออกฤทธิ์ได้คล้ายกับกรดอินทรีย์ที่เป็นกรดอ่อนชนิดอื่น เช่น วิตามิน Cหรือกรดแอสคอร์บิคคือ ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหาร เช่น แคลเซียม ธาตุเหล็ก ฯลฯ
- ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
น้ำส้มสายชูช่วยลดระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดได้ ในคนบางคน กลไกที่เป็นไปได้ คือ กรดในน้ำส้มสายชูไปทำให้เอนไซม์ที่เป็นน้ำย่อย คาร์โบไฮเดรต (อาหารกลุ่มข้าว-แป้ง-น้ำตาล) ทำงานได้น้อยลง ผลคือ ทำให้การย่อยอาหารช้าลง ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นช้าลงหรือลดลงช้าลง ทำให้อิ่มนานขึ้น กลไกนี้อาจช่วยให้คนลดความอ้วนได้พวกนี้ด้วย ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะใช้น้ำส้มสายชูในการป้องกันเบาหวาน หรือกินก่อนอาหารมื้อใหญ่ในคนทั่วไป
- ใช้แทนไขมันที่ไม่ดีกับสุขภาพและเกลือโซเดียม
การใช้น้ำส้มสายชูปรุงรสอาหารช่วยลดการใช้เกลือโซเดียม เช่น ซอส น้ำปลา ฯลฯ และช่วยลดการใช้ไขมัน เช่น ทำสลัดน้ำใสสูตรน้ำส้มสายชูแทนสลัดน้ำข้น
นอกจากนั้น ยังช่วยกำจัดกรดแลคติค ที่เกิดหลังการทำงานหนัก ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย กล้ามเนื้อเมื่อยล้า เคลื่อนไหวช้า เกิดอารมณ์ผันผวน ฉุนเฉียวง่าย ภาวะเช่นนี้ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรค
การดื่มน้ำส้มสายชูหมักจะทำให้ภาวะเลือดเป็นกรดที่เกิดจากคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง ซึ่งจะทำให้ตับทำงานน้อยลง น้ำส้มสายชูหมักจึงเปรียบเป็นโอสถทิพย์จากธรรมชาติขนานแท้ที่ช่วยบำบัดร่างกายให้กลับมาอยู่ในภาวะสมดุล
จึงไม่น่าแปลกเมื่อ 2,000ปีก่อนวีเนก้าถูกนำไปใช้เป็นยารักษาโรคหลากหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างในอิตาลี เวลาที่มีคนเป็นลมใช้วีเนก้ามาสูดดมเพราะมีกลิ่นฉุน ต่อมาจึงถูกนำไปใช้ปรุงอาหารในเมนูต่างๆ ของอาหารยุโรปแทบทุกจานก็ว่าได้
โดย oOfonOo [ 22 ส.ค. 2554 : 09:09:010 ]