"สำนักงานศิษย์เก่าสัมพันธ์ มธ." ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "สำนักงานธรรมศาสตร์สัมพันธ์" ตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่าด้วยการจัดตั้งและการแบ่งส่วนงานของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ.2559
กำจัดความเครียด...ให้องค์กรมีสุข


เครียด.. เครียด.. เครียด !?!ใครๆ ก็มีปัญหากับความเครียดรอบตัว ทั้งเรื่องของการทำงาน เรื่องปัญหาส่วนตัว ที่มากระทบหัวสมองโล่งๆ ทำให้การทำงานไม่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างเต็มร้อย ดิฉันเห็นเพื่อนของดิฉันที่ทำงานหนักๆ ด้วยความเครียด เจอกันทีไร ไวรัสความเครียด ความกังวลเข้ามาแพร่กระจายได้เต็มกลุ่ม แถมมีแต่เรื่องติดลบให้เพื่อนๆ ได้กังวลกันอีก วงสนทนาเฮฮากลับกลายเป็นเรื่องเศร้า เฮ้อ... แย่จัง

ความเครียดและความกังวล หากมีอยู่ในจำนวนที่พอเหมาะน่าจะเป็นเรื่องดีเพราะจะทำให้เราได้มีความกระตือรือร้นในการทำงาน แต่หากมีมากเกินไป อาจจะทำให้เราไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มร้อย เพราะดิฉันเชื่อว่าสมองที่ปรอดโปร่งจะสามารถทำให้เราคิดอะไรได้ "ใส" และ ทะลุ" มากกว่าสมองตื้อๆ แน่นอน

วันนี้ เรามาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าจะทำอย่างไร ถึงจะสามารถกำจัดความเครียดที่มีนั้นลงได้

1. หายใจเข้าออก ลึกๆ

หากคุณมีภาวะที่กลืนไม่เข้า พูดไม่ออก อยากที่จะกริ๊ดใส่พนักงานหน้าซื่อของคุณ ขอแนะนำให้ออกจากบริเวณตรงนั้นสักครู่หนึ่ง ไปหาที่สงบๆ หายใจเข้าออกลึกๆ ก่อน เพราะเมื่อคุณโกธร คุณเครียด คุณจะไม่มีสติ แล้วการทำอะไรที่ขาดสติเป็นสิ่งที่แย่และไม่สามารถที่จะเรียกกลับคืนมาได้ ดังนั้น ไปเอาสติกลับมาที่หัวใจเราก่อน หายใจเข้าลึกๆ ยาวๆ จับใจตนเองแล้วปล่อยมันไป สร้างความหนักแน่นให้ตนเองก่อนที่จะพูดจะทำ อันนี้ จะเป็นขั้นตอนแรกของการกำจัดความเครียด แต่หากคุณไม่สามารถที่จะออกจากบริเวณตรงนั้นได้ ให้ตั้งสติ อย่าพึ่งขว้างข้าวของให้เสียลุคผู้ประกอบการคนเก่ง แค่หายใจเข้าออก ยาวๆ ตั้งสติคิดก่อนที่จะพูดออกมา นั่นแหละค่ะเป็นขั้นแรกของการกำจัดความเครียดในที่ทำงาน

หากถึงเวลาพัก การ Take a nap หรือไปนั่งเงียบๆ คนเดียว แทนที่จะไปเม้าท์มอยกับเพื่อนก็สามารถที่จะทำให้เรานิ่งขึ้น ไม่เขวไปเขวมาได้นะคะ สิ่งเหล่านี้ ทำเพื่อที่จะดึงสติทั้งหมด และกำจัดความเครียดที่มีก่อนค่ะ



โดยคุณ : oOfonOo เมื่อ 8 ส.ค. 2554 : 09:19:52  

ความเห็นที่ 1


2. หยุดทำงานสักครู่

ดิฉันยังจำ Moment นั้นได้จนถึงทุกวันนี้ เมื่อหลายปีที่แล้ว ในขณะที่กำลังจะขับรถไปทำงานตอนเช้า ดิฉันจอดรถข้างทางแล้วร้องไห้ ด้วยความที่ไม่อยากไปทำงานแล้วเจอะเจอกับปัญหาที่แก้ไม่ตก กับคนที่ไม่อยากเจอ

หากคุณมีความรู้สึกที่ไม่อยากตื่นไปทำงานตอนเช้า ยังแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เสียที แนะนำว่า ลองหาเวลาพักให้กับตนเองสักครู่ ไปต่างจังหวัด หากิจกรรมผ่องใสทำ เพื่อเป็นการหยุดพักตนเองสักหน่อย สร้างภาวะปิ๊งแวบและหัวใจประณีตที่จะทำให้เราสามารถคิดอะไรได้ดีขึ้น บางทีการจดจ่ออยู่กับอะไรมากเกินไปทำให้เราไม่สามารถที่จะมองเห็นภาพใหญ่ได้ ดังนั้น หยุดพักงานสักครู่ เพื่อไป Charge battery เพื่อทำให้เส้นผมเส้นนั้นที่บังภูเขาลูกใหญ่อยู่ได้หายออกไป เผื่อว่ากลับมาคุณได้จะมีมุมมองใหม่ๆ ที่สดใสกว่าเดิมก็เป็นได้

3. จัดระบบ ปรับองค์กร

หากคุณหายใจเข้าออกก็แล้ว ไปเที่ยวก็แล้ว ก็ยังมานั่งหงอยเหงาอยู่ที่ทำงาน something must be wrong แล้วล่ะค่ะ ดังนั้นหากว่าคุณเป็นพนักงานในองค์กร คุณอาจจะต้องถามใจตัวคุณเองดีๆ แล้วล่ะค่ะ ว่าสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่นี้เป็นสิ่งที่คุณชอบจริงๆ หรือไม่ อย่าให้การทำงานของคุณบั่นทอนจิตวิญญาณของคุณนะคะ หัวใจ สุขภาพ และคนที่เรารักเป็นสิ่งที่ไม่ควรแลกกับสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเองอย่างเงินหรอกค่ะ ดังนั้น คุณอาจที่จะขยับขยาย หาที่ทำงานใหม่ที่เหมาะสมและทำให้คุณสดชื่นขึ้นมาได้นะคะ

แต่หากว่าคุณเป็นเจ้าของกิจการ แล้วคุณเกิดไม่มีความสุขที่จะอยู่กับมัน ลองมองดูว่าเป็นเพราะอะไร หากว่าองค์กรของคุณใหญ่ เทอะทะเกินไป ลองปรับให้มันอยู่ใน size ที่เหมาะสม หรือหากคุณต้องทำในสิ่งที่คุณไม่ชอบ ลองปรับจัดจ้างหาผู้บริหารมืออาชีพมาทำแทนดู ปัญหาและความเครียดมีไว้ให้แก้ ไม่ได้มีไว้ให้ทนนะคะ

เราในฐานะผู้ประกอบการ ถ้าเราไปทำงานแบบเหี่ยวๆ ทำไปวันๆ แบบไม่มีกะจิตกะใจจะทำ พนักงานที่ทำงานอยู่ด้วยก็คงทำงานแบบเหี่ยวๆ ไปตามๆ กัน ดังนั้น อย่าที่กว่าค่ะ ทำในสิ่งที่ทำให้เรากระฉับกระเฉง ตาเป็นประกายเหมือนตอนที่เราทำงานใหม่ๆ ไม่ดีกว่าหรือคะ

ความเครียดในบริมาณที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่ดีนะคะ แต่อย่าให้มันมากลืนกินจิตวิญญาณของเรา โลกนี้ยังมีอะไรดีๆ ให้ค้นหาให้ทำอีกมากมาย ปรับตัว ปรับสิ่งแวดล้อมให้ละลายความเครียดที่มากลืนกิน เอาใจช่วยนะคะ

...ไม่มีใครสะดุดภูเขาล้ม มีแต่สะดุดก้อนหินล้ม...

โดย oOfonOo [ 8 ส.ค. 2554 : 09:25:49 ]

Member
205 ศิษย์เก่า และ 54 บุคคลทั่วไป